วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2550

คึ่นช่าย สมุนไพรลดความดัน


ถ้าใช้มุมมองแบบระบาดวิทยา คือดูความชุกของโรคว่าโรคใดเกิดขึ้นมาในเวลานี้ คำตอบที่ได้ในปัจจุบันก็คือ โรคความดันโลหิต ซึ่งกำลังกัดกร่อนสุขภาพคนไทยอย่างยิ่ง ประมาณกันว่าประชากรไทยอายุระหว่าง 30-60 ปี เจ็บป่วยด้วยโรคนี้ร้อยละ 4-7 ส่วนคนที่อายุ 60 ปีขึ้นไปความดันสูงเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10- 15
โรคความดันโลหิตสูงโดยตัวของเขาเองดูเหมือนว่าไม่เป็นอันตราย โลหิตจะสูงก็สูงไป แต่แท้จริงแล้วเมื่อเจ็บป่วยเพราะความดันโลหิตสูงจะพาชีวิตของเราป่วยไข้ได้อีกหลายโรค เนื่องจากโรคนี้ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักซึ่งอาจจะทำให้เกิดโรคหัวใจวาย และเป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับหนึ่งของโรคอัมพาต นอกจากนี้ยังพาเราให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคไต โรคหลอดเลือดแดงแข็ง เป็นต้น
การดูแลสุขภาพของตนเองให้เหมาะสมเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เช่น ผู้ป่วยโรคนี้ต้องทำการลดน้ำหนัก บริโภคอาหารที่มีปริมาณเกลือลดลง รับประทานผักและผลไม้ให้มาก เนื่องจากผักและผลไม้จะมีโปแตสเซียมจำนวนมากซึ่งจะช่วยลดความดันโลหิตได้ และควรงดการดื่มสุรา ขณะเดียวกันหากอยู่ระหว่างรับประทานยาก็ควรทำตามที่แพทย์สั่ง
ที่สำคัญคือต้องมีการตรวจวัดความดันว่าสามารถคุมความดันให้ลดลงจนอยู่ในระดับปกติได้หรือยัง ถ้ายังก็จะต้องดูแลสุขภาพใกล้ชิด มิให้ภัยเงียบมาจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว สำหรับท่านที่ต้องการใช้สมุนไพรเพื่อช่วยคุมความดันให้อยู่ในระดับปกตินั้น สมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีความปลอดภัยสูงและมีการใช้ลดความดันกันอย่างแพร่หลายคือ “คึ่นช่าย”
คึ่นช่าย หรือภาษาอังกฤษเรียกCelery หรือ Smallage มีชื่อวิทยาศาสตร์ : Apium graveolens Linn. อยู่ในวงศ์ UMBELLIFERAE เป็นพืชพื้นเมืองของยุโรปตอนใต้ ชาวกรีกโบราณมีการทำไวน์คึ่นช่ายเพื่อให้นักกีฬากิน และใช้เป็นยาสมุนไพรมาอย่างยาวนาน ภายหลังคึ่นช่ายขยายตัวมีผู้นำไปปลูกทั่วไปในยุโรป และข้ามไปฝั่งอเมริกา ต่อมาถึงทวีปเอเชียบ้านเราด้วย
คึ่นช่ายเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในดินเค็ม นิยมใช้ลำต้นและใบมาปรุงอาหาร และแต่งกลิ่นอาหารบางชนิด โดยเฉพาะใช้ดับคาวปลา และเนื้อ ปัจจุบันคึ่นช่ายจึงเป็นผักที่นิยมรับประทานอย่างกว้างขวางทั่วโลก รวมทั้งมีประสบการณ์การใช้เป็นยามาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะใช้เป็นสมุนไพรลดความดัน
ชาวเอเชียรู้จักใช้คึ่นช่ายเป็นยาลดความดันมาประมาณ 2000 ปี ชาวจีน ชาวเวียดนามแนะนำให้รับประทานคึ่นช่ายวันละ 4 ต้น เพื่อรักษาความดันให้เป็นปกติ แพทย์อายุรเวทในอินเดียจะสั่งจ่ายเมล็ดคึ่นช่ายเพื่อขับปัสสาวะสำหรับผู้ป่วยที่บวมน้ำ นอกจากนี้ยังใช้สำหรับการรักษาหวัด หวัดใหญ่ อาจเนื่องมาจากคึ่นช่ายเป็นผักที่มีวิตามินซีสูงมากชนิดหนึ่ง ในผักคึ่นช่ายมีน้ำมันหอมระเหยอยู่ด้วย จึงมีสรรพคุณในการช่วยย่อยอาหาร และมีการนำมาใช้เป็นยาแก้ข้ออักเสบ โรคเก๊า สรรพคุณทางยาของคึ่นช่ายเหล่านี้ชาวยุโรปรู้จักกันดี ถ้าไปค้นในประวัติศาสตร์โบราณของยุโรปก็จะพบว่ามีการใช้สมุนไพรชนิดนี้อย่างกว้างขวาง รวมไปถึงมีการแนะนำให้ใช้คึ่นช่ายเพื่อรักษาโรคนอนไม่หลับ โรคอ้วน โรคประสาท มะเร็งหลายชนิด ใช้ขับประจำเดือน และกินแล้วทำให้เกิดการแท้งลูกได้ รวมทั้งยังเชื่อว่าคึ่นช่ายยังมีฤทธิ์ในการกระตุ้นกำหนัดและบำรุงประสาทอีกด้วย
คึ่นช่ายคงแพร่ข้ามาเมืองไทยนานแล้วจึงพบว่ามีตำรายาไทยได้ระบุถึงสรรพคุณของคึ่นช่าย ว่า ราก แก้จุกเสียด ขับน้ำเหลืองเสีย ขับปัสสาวะ ต้น ขับระดู แก้ความดันโลหิตสูง ขับปัสสาวะ แก้อาการเมา เหล้า แก้อาเจียน รับประทานมากทำให้เป็นหมันได้ ใบ แก้โรคความดันโลหิตสูง แก้อาการตกเลือด แก้โรคลมพิษ เมล็ด ขับลม ขับระดู ขับปัสสาวะ แก้อาการเกร็งของกล้ามเนื้อเป็นยาบำรุง บำรุงหัวใจ ทั้งต้น ลดความดันโลหิต ขับระดู เป็นต้น ปัจจุบันมีการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของคึ่นช่ายพบว่า คึ่นช่ายมีฤทธิ์สนับสนุนการใช้ที่มีมาแต่โบราณ คือมีฤทธิ์ลดความดันโลหิต ขับปัสสาวะ ลดบวม คุมกำเนิด ลดจำนวนอสุจิ ลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดคลอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ยับยั้งการเกิดมะเร็ง ยับยั้งเนื้องอก ต้านการอักเสบ ทำให้กล้ามเนื้อเรียบบีบตัว มีฤทธิ์กล่อมประสาท เป็นต้น
การใช้คึ่นช่ายเพื่อลดความดันนั้นปรากฏชัดในปีค.ศ.1992 นาย Minh Le บิดาของนักศึกษามหาวิทยาลัยแพทย์ชิคาโก ถูกวินิจฉัยจากแพทย์ว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง และแพทย์ได้สั่งยาแผนปัจจุบันเพื่อรักษาความดันโลหิตสูง แต่นาย Le ไม่ยอมกินยาแผนปัจจุบัน กลับไปกินคึ่นช่ายวันละ ¼ ปอนด์(1 ปอนด์หนัก 454 กรัม)หรือใช้คึ่นช่ายประมาณ 4 ก้านทุกวัน ไม่นานนักพบว่าความดันลดลงจาก 158/96 เหลือ 118/82 ต่อมาลูกชายของเขา Quang Le และนักเภสัชวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ชิคาโก ดร.Willium Elliot ได้แยกสารชื่อว่า 3-n-butyl phathalide และเมื่อฉีดเข้าไปในหนูขนาดเท่ากับคึ่นช่าย 4 ก้าน พบว่าความดันโลหิตสูงลดลงร้อยละ 15 และโคเลสเตอรอลลดลงร้อยละ 7
แม้จะไม่มีการศึกษาวิจัยการใช้คึ่นช่ายเป็นยารักษาโรคความดันโลหิตสูงในคนอย่างชัดเจน แต่คึ่นช่ายเป็นผักที่เรารับประทานกันอยู่แล้ว ทั้งยังมีประโยชน์มากมายกล่าวคือมีวิตามินซีสูงมาก ซึ่งสามารถต้านอนุมูลอิสระ และช่วยทำให้หัวใจและหลอดเลือดแข็งแรง เป็นผักที่มีแคลเซียม และเบต้า-แคโรทีนพอสมควร ทั้งยังมีสารต้านมะเร็ง ฟธาไลเดส(phthalides) อีกด้วย

2 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

สมุนไพรรักษาความดันโลหิตสูง เส้นเลือดตีบ อัมพฤกษ์ เห็นผลดีขึ้น 99% ในเวลาเพียง 1- 2อาทิตย์ สมุนไพรดัง ชุดนึงทานได้ 1-2 เดือน คุ้มค่า ปลอดภัย สาธารณสุขตรวจสอบแล้ว ปลอดภัย ตรวจสอบได้ บอกเป็นวิทยาทาน ไม่มีคำว่าผิดหวังสักราย
ติดต่อโดยตรงทาง natkata99@gmail.com
หรือ 083-351-6902 อ.ณรงค์ฤทธิ์
จริงจัง จริงใจ ไม่เคยหลอกลวงใคร ประสบการณ์นำสมุนไพรดีหลายโรค มาเผยแพร่เป็นเวลามากกว่า 2 ปี ไม่ดีจริงไม่กล้าบอกต่อให้เสียชื่อเสียง ยินดีให้คำปรึกษาได้ในเวลา จ-ศ12.00-13.00น. ,15.00-24.00น., ส-อา 08.00-24.00น. ได้ทุกวัน หากรีบเร่งโทรมาได้ทุกเวลา ยินดียิ่ง (งานหลักเรา คือ สร้างรอยยิ้มให้ผู้หมดหวัง ความสุข คือ กำไรชีวิต ช่วยเหลือตามกำลัง มาเยี่ยมเยียนกันได้ตลอดเวลา)

Dao กล่าวว่า...

ข้อมูลเป็นประโยชน์มากค่ะ